ขั้นตอนการบัญญัติพระวินัย เปรียบเทียบกับการขั้นตอนบัญญัติกฏหมาย ตอนที่ ๑

การบัญญัติพระวินัย เปรียบเทียบการตรากฏหมายทั้งในอดีตจนถึงปัจจุบัน ตอนที่ 1
การบัญญัติพระวินัยของพระพุทธเจ้า
พระพุทธเจ้า ไม่ทรงบัญญัติสิกขาบทใดไว้ล่วงหน้าเมื่อยังไม่มีเหตุที่ควรบัญญัติ ซึ่งลักษณะนี้มีลักษณะเดียวกันกับการบัญญัติกฏหมาย แม้พระสารีบุตรจะทูลขอให้ทรงบัญญัติสิกขาบท พระพุทธเจ้าก็ทรงปฏิเสธโดยให้รอก่อน จนเมื่อมีเหตุอันควรคือ มีผู้ติเตียนภิกษุในธรรมวินัยนี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นชาวบ้านติเตียน หรือภิกษุด้วยกันติเตียน และนำความขึ้นทูลพระพุทธเจ้าโดยภิกษุผู้ติเตียนเอง หรือภิกษุผู้ได้ยินเรื่องราวมาก็ดี ในขั้นตอนนี้มักมีการเปรียบเทียบว่าภิกษุผู้นำความขึ้นทูลฟ้อง เสมือนเป็นพนักงานอัยการในสมัยปัจจุบัน ซึ่งไม่ถูกต้อง
เพราะเหตุว่าขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนการบัญญัติกฏหมายในขั้นตอนการเสนอร่างกฏหมายต่อรัฐสภาในปัจจุบัน มิใช่ขั้นตอนการออกกฏหมายที่มีผลบังคับแล้วเกิดการกระทำความผิด การที่มีผู้ขาดความรู้ด้านกฏหมาย เปรียบเทียบขั้นตอนนี้เช่นนี้ ทำให้ขัดหลักกฏหมายสากล รัฐธรรมนูญมาตรา 39 และประมวลกฏหมายอาญามาตรา 2
มาตรา 39 บุคคลไม่ต้องรับโทษอาญา เว้นแต่ได้กระทําการอันกฎหมายที่ใช้อยู่ในเวลาที่ กระทํานั้นบัญญัติเป็นความผิดและกําหนดโทษไว้ และโทษที่จะลงแก่บุคคลนั้นจะหนักกว่าโทษที่ กําหนดไว่ในกฎหมายที่ใช้อยู่ในเวลาที่กระทําความผิดมิได้
มาตรา 2 บุคคลจักต้องรับโทษในทางอาญาต่อเมื่อได้กระทำการ อันกฎหมายที่ใช้ในขณะกระทำนั้นบัญญัติเป็นความผิดและกำหนด โทษไว้และโทษที่จะลงแก่ผู้กระทำความผิดนั้น ต้องเป็นโทษที่ บัญญัติไว้ในกฎหมาย
ซึ่งหลักสากลทั่วโลกยืนยันหลักเดียวกันว่า
"ไม่มีโทษถ้าไม่มีกฎหมายกำหนด" (ละติน: nulla poena sine lege, นุลลาโพนาซีเนเลเก) เป็นภาษิตภาษาละตินทางกฎหมายและหลักกฎหมายซึ่งเป็นที่ยอมรับและถือปฏิบัติเป็นหลักการสากลว่า จะมีโทษสำหรับผู้กระทำการอันไม่ต้องห้ามตามกฎหมายมิได้
ภาษิต "ไม่มีความผิดถ้าไม่มีกฎหมายกำหนด" (ละติน: nullum crimen sine lege)
ทั้งสองมาจากภาษิตเต็มว่า "ไม่มีความผิดและไม่มีโทษถ้าไม่มีกฎหมายกำหนดไว้ก่อน" (ละติน: nullum crimen, nulla poena sine praevia lege poenali) อันเป็นหลักที่ถือปฏิบัติกันเคร่งครัดว่า ในทางอาญากฎหมายจะมีผลย้อนหลังไม่ได้ เว้นแต่ย้อนหลังไปเป็นคุณแก่ผู้ต้องโทษ
ภาษาอังกฤษคือ No crime no punishment without law ไม่มีความผิด ไม่มีโทษ ถ้าไม่มีกฏหมาย หรือจะแปลเป็นสำนวนไทยว่า "ไม่มีกฏหมายก็ไม่มีความผิดเมื่อไม่มีความผิด ก็ไม่มีโทษ"
สำหรับกฎหมายของประเทศเยอรมนีนั้นรับรองหลัก "ไม่มีโทษถ้าไม่มีกฎหมายกำหนด" โดย ชตรัฟเกเซทซ์บุคส์ (เยอรมัน: Strafgesetzbuches) หรือ ประมวลกฎหมายอาญาเยอรมัน บัญญัติไว้ในบททั่วไป, หมวด 1 กฎหมายอาญา, ลักษณะ 1 การใช้ เขตอำนาจโดยเหตุผลแห่งดินแดนและพฤติการณ์ ดังนี้
"Section 1. (No punishment without law) An act may only be punished if criminal liability had been established by law before the act was committed.
จะเห็นว่าสากลทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย จะใช้หลักเดียวกันหมดคือ "กฏหมายอาญาไม่มีผลย้อนหลังเป็นโทษแก่ผู้กระทำความผิด"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น